ไม่ว่าคุณจะเป็นนักตกปลามือใหม่ หรือมือเก่า อาจจะเคยสงสัยว่า รอกตกปลาไฟฟ้า ที่มีใช้กันทั่วไปนั้นมีกี่ประเภท และอะไรบ้าง รวมถึงรอกแต่ละประเภทนั้นสามารถใช้งานกันแบบไหน และรอกชนิดใดควรนำไปใช้ในการตกปลาอะไรบ้าง ซึ่งแต่ละชนิดนั้นจะมีความสามารถที่แตกต่างกันออกไป ในขณะที่บางคนนั้นใช้รอกตกปลาตัวเดียวตกปลาแทบจะทุกประเภท ทั้งนี้ก่อนจะเข้าเรื่องรอกตกปลาแต่ละชนิดนั้น ต้องทราบก่อนว่า รอกตกปลาไฟฟ้า คือ รอกตกปลาแต่ถูกพัฒนาให้ใช้งานสะดวกสบายมากยิ่งขึ้นด้วยระบบไฟฟ้า ทำให้สามารถตกปลาได้อย่างง่ายดายมากยิ่งขึ้น และรอกไฟฟ้านั้น เป็นออฟชั่นเสริมที่มีอยู่ใน รอกตกปลาแทบจะทุกชนิดเลยทีเดียว
ทั้งนี้มันก็ไม่ใช่เรื่องผิดอะไร ถ้าหากจะใช้รอกตกปลาประเภทเดียวตกปลาทุกชนิด แต่เพื่อความมีประสิทธิภาพในการตกปลานั้น ควรจะใช้อย่างถูกวิธีจะดีกว่า โดยการเลือกใช้ขนาดรอกตกปลาให้ตรงกับการตกปลาแต่ละประเภท จะเป็นการช่วยถนอมรอกตกปลาไฟฟ้าให้มีอายุการใช้งานได้นานมากขึ้นอีกด้วย และสิ่งที่สำคัญมากที่สุดคือการเพิ่มโอกาสได้ปลามากยิ่งขึ้นอีกด้วย ดังนั้นมารู้จักกับรอกตกปลาแต่ละประเภทและขนาดต่าง ๆ กันดีกว่า ว่ารอกแบบใดเหมะกับการใช้งานของคุณมากที่สุด มีอะไรบ้างมาดูกัน
1. รอกตกปลาไฟฟ้าสปินนิ่ง
เป็นหนึ่งในรอกตกปลาไฟฟ้าที่ได้รับความนิยมมากที่สุด ด้วยความที่เป็นรอกที่ไม่มีความซับซ้อนทางด้านกลไกมากนัก นักตกปลาสามารถใช้งานได้อย่างง่ายดาย โดยจะมีมีส่วนประกอบสำคัญ ดังนี้
- ตัวเรือน หรือบอดี้รอก เป็นส่วนที่บรรจุฟันเฟืองต่าง ๆ รวมถึงแกนสปูน และระบบเรียงสาย
- สปูน เป็นอุปกรณ์สำหรับเก็บสายเอ็นที่ใช้ตกปลา และในส่วนอุปกรณ์ตัวนี้จะประกอบไปด้วย คลิ๊กเสียง สำหรับแจ้งเตือนเวลาปลาลากสายเบ็ดออกจากสปูน และด้านบนยังมีช่องสำหรับใส่ผ้าเบรคและจานเบรคอีกด้วยเพื่อใช้ต่อสู้กับปลา
- โรเตอร์ เป็นอุปกรณ์ในการกว้านสายเก็บเข้าสปูน
- แขนหมุนรอก สำหรับหมุนเก็บสายเอ็น
- ขารอก เป็นอุปกรณ์ที่เชื่อต่อกับตัวบอดี้รอก มีไว้สำหรับจับยึดกับคันเบ็ดนั่นเอง
สำหรับรอกตกปลไฟฟ้าแบบสปินนิ่งนั้น จะมีดังนี้
- รอกสำหรับตีเหยื่อปลอม ก็จะมีขนาดเล็ก เช่นเบอร์ 1000-2500 ก็จะเหมาะสำหรับตีเหยื่อปลอมตกปลาน้ำจืดขนาดไม่ใหญ่มาก เช่นปลาช่อน ชะโด กระสูป ฯลฯ
- ส่วนเบอร์ที่ใหญ่ขึ้นมา เช่นเบอร์ 3000-3500 ก็เหมาะสำหรับตีเหยื่อปลอมขาดใหญ่ หรือจะนำไปใช้งานไลท์จิ๊กก็ได้
- ส่วนรอกที่มีขนาดใหญ่ขึ้นมาอีก เช่น เบอร์ 4000-6000 ก็จะเหมาะกับงานหน้าดิน
- สำหรับการตกปลาที่มีขนาดใหญ่ และต้องการตีเหยื่อไกล ๆ เนื่องจากมีการจุสายได้มากและมีขนาดสายใหญ่ขึ้น เช่นการตกยี่สกใหญ่ สวายใหญ่ตามเขื่อนหรือแม่น้ำ ซึ่งจะมีอุปสรรคมากมาย เช่นตอไม้ สวะต่าง ๆ รอกที่มีขนาดใหญ่ขึ้นมาอีกเช่นเบอร์ 7000-9000 ซึ่งจะมีขนาดใหญ่และน้ำหนักมากจุสายขนาดใหญ่ได้มาก จึงเหมาะที่จะนำไปตกปลาที่มีขนาดใหญ่ เช่น ปลาบึกขนาดใหญ่ สวายขนาดใหญ่ ปลากระโห้ ฯลฯ ที่มีขนาดน้ำหนักเกิน 50 กก.ขึ้นไป หรือนำไปตกปลาทะเลบนเรือ
- ซึ่งบางครั้งก็มีการใช้รอกขนาดที่ใหญ่กว่านี้ เช่นเบอร์ 10000 ขึ้นไป นอกจากรอกขนาดใหญ่แล้ว เดี๋ยวนี้รอกขนาดเล็ก ๆ เช่น เบอร์ 500-800 ก็กำลังเป็นที่นิยมของนักตกปลาประเภทสปิ๋ว เนื่องจากการตกประเภทนี้บางครั้งต้องถือคันตลอดเวลา หรือต้องวัดคันเบ็ดบ่อยและไม่จะเป็นต้องตีเหยื่อไกล ๆ ดังนั้นจึงเน้นรอกที่มีน้ำหนักเบามากกว่าการจุสายได้มาก
ทั้งนี้รอกตกปลาชนิดนี้ถูกจัดทำขึ้นมาเพื่อความสะดวกในการปรับแต่งระดับเบรคให้พอดีสำหรับใช้งานเหมือนกับรอกเบทคาสติ้ง แต่ไม่มีปุ่มกดฟรีสปูนแต่ได้มีการจัดทำกลไกการปรับแต่งเบรคอีกชุดไว้ด้านล่างของตัวรอกโดยนักตกปลาจะมีการปรับเบรคด้านท้ายให้สายสามารถให้ปลาดึงออกได้โดยง่าย พร้อมทั้งคันโยกที่คอยสลับการมำงานระหว่าเบรคหน้ากับเบรคหลัง โดยเมื่อกดคันโยกลงจะเป็นการทำงานของเบรกหลังแต่เมื่อดันคันโยกขึ้นหรือหมุนแขนรอก คันโยกก็จะดีดขึ้นพร้อมทั้งการทำงานของเบรคหน้าที่เราตั้งไว้อย่างพอดีแล้ว จึงง่ายต่อการอัดปลา
2. รอกตกปลาไฟฟ้าเบทคาสติ้ง
สำหรับรอกตกปลาไฟฟ้าประเภทคาสติ้งนั้น รูปทรงจะแตกต่างจากรอกสปินนิ่งค่อนข้างมาก และการใช้งานก็ค่อนข้างจะซับซ้อน และมีขนาดมากมายสำหรับการใช้งานในแต่ละประเภทเช่นเดียวกัน โดยภายในตัวบอดี้ก็จะประกอบไปด้วยฟันเฟือง แกนสปูน สปูน ระบบเบรค คลิ๊กเสียง และแขนหมุน ซึ่งวัตถุประสงค์ก็เช่นเดียวกับรอกสปินนิ่ง คือเอาไว้ใช้ตกปลาเช่นเดียวกัน แต่รอกเบทจะมีการแบ่งประเภทไว้ชัดเจนว่ารอกแต่ละแบบเอาไว้ตกปลาแบบไหน เช่น รอกเบททรงกลมทั่วไป ซึ่งจะมีการแบ่งขนาดโดยใช้ตัวเลขตามแต่ละยี่ห้อจะกำหนดมา แต่โดยรวมก็จะคล้าย ๆ กันและมีขนาดแต่ละเบอร์ใกล้เคียงกัน เช่นบางยี่ห้อจะกำหนดเป็น เบอร์ 4000-10000 บางยี่ห้อ เซ็กซี่ บาคาร่า ก็กำหนดเป็นเบอร์ 100-700 เป็นต้น นักตกปลาก้จะต้องเทียบเคียงเอาว่าแต่ละเบอร์ของทั้งสองยี่ห้อนี้เบอร์ไหนมีขนาดเท่ากันโดยดูจากความจุของสายขนาดเดียวกัน
3. รอกตกปลาไฟฟ้าฟลาย
รอกตกปลาไฟฟ้าฟลายนั้น จะมีความเป็นรอกตกปลาแบบคลาสสิก ที่นักตกปลาบางคนจะชื่นชอบเป็นอย่างมาก โดยรูปแบบจะคล้ายกันแทบจะทั้งหมด สำหรับการตกปลาด้วยรอกชนิดนี้นั้น จะใช้คันที่มีรูปแบบและแอ็คชั่นรวมถึงวิธีการตกที่แตกต่างจากรอกสปินนิ่ง และรอกเบทคาสติ้ง โดยจะเป็นการตกโดยใช้เหยื่อปลอมที่มีลักษณะคล้ายแมลง อาจทำด้วยขนนกหรือวัสดุที่มีน้ำหนักเบาและลอยน้ำ โดยจะใช้ตกปลาล่าเหยื่อผิวน้ำเป็นหลัก แต่ก็มีหลายครั้งที่สามารถตกได้ปลาที่ล่าเหยื่อใต้น้ำเช่นกัน
4. รอกตกปลาไฟฟ้ากระปุก
รอกตกปลาไฟฟ้าแบบกระปุกนั้นจะมีลักษณะที่คล้ายกับรอกตกปลาแบบสปินนิ่ง แต่จะมีฝาครอบสปูนไว้อีกที โดยจะมีช่องปล่อยสายเอ็นอยู่ด้านบนฝาครอบ ในประเทศไทยไม่ได้นิยมใช้มากนัก เพราะโดยสภาพแล้วรอกตกปลากระปุกจะเหมาะสำหรับใช้ติดกับปืนฉมวกยิงปลามากกว่า วิธีใช้งานก็จะมีปุ่มกดฟรีสปูนเช่นเดียวกับรอกเบทคาสติ้งซึ่งจะต้องทำการกดฟรีสปูนก่อนการใช้งานทุกครั้งเพื่อให้สายวิ่งออกไปได้อย่างอิสระ Ufabet เว็บหลัก
https://cdn.shopify.com/s/files/1/0060/3770/0678/files/IMG_8621.jpg?v=1638919625
https://cdn.shopify.com/s/files/1/0060/3770/0678/files/IMG_8603_2.jpg?v=1639706154
https://cdn.shopify.com/s/files/1/0060/3770/0678/files/Shallow_snapper.jpg?v=1639955946