ปลาหมอ ไทยรู้จักกันในหลายชื่อ ในแต่ละภาคของประเทศไทย มีชื่อเรียกต่างกัน โดยที่ภาคกลางจะเรียกปลาหมอหรือปลาสะเด็ด ภาคอีสานจะเรียกว่าปลาเข็งที่แปลว่าแข็ง ปลาหมอมีปอดเล็กๆ สามารถเห็นได้ว่า ปลาหมอจะขึ้นมาหายใจในผิวน้ำบ่อย ปลาหมอสามารถทำเมนูอาหารได้หลายอย่าง เป็นปลาประจำถิ่นที่ใครๆก็เคยได้ลิ้มลอง โดยเฉพาะคนต่างจังหวัด ในสำนวนที่ว่า ปลาหมอตายเพราะปากนั้น มาจากปลาหมอจะขึ้นมาหายใจบนผิวน้ำ คนจับปลาซึ่งอาศัยช่วงเวลานี้ในการจับปลาหมอ โดยการเหวี่ยงแห ลักษณะการดำรงชีวิตของปลาหมอนั้นทำให้ตัวเองโดนจับกิน อีกความหมายหนึ่ง ในสำนวนนี้ก็สามารถแปลได้ว่า เป็นคนที่ไม่มีความลับต่อใคร ความลับนั้นเป็นโทษต่อตัวเอง
ปลาหมอเป็นปลาที่มีก้างเยอะ ผู้รับประทานจึงต้องระมัดระวังในการกิน การกินปลาหมอเป็นการฝึกความใจเย็น เพราะว่าถ้าจะให้กินแบบก้างติดคอนั้น ต้องใช้เวลาเกลี่ยออก และยังต้องใช้ลิ้นในการกระจายเนื้อปลาเพื่อหาว่ายังมีก้างเหลืออยู่หรือเปล่า ก่อนที่จะกลืนลงไป เพราะคงไม่มีใครอยากกินเนื้อปลาที่ก้างยังเต็มอยู่ เหมาะกับคนที่ต้องการจะลดน้ำหนักอีกด้วย เพราะใช้เวลาเคี้ยวนาน ทำให้กินอาหารได้น้อยลง คนรุ่นใหม่จะไม่ค่อยรู้จักปลาหมอเท่าไหร่นัก เพราะกินยาก แล้วก็สามารถหาปลาชนิดอื่นทดแทนได้ ซึ่งปลาหมอนี้จะอยู่ในเมนูกับข้าวพื้นบ้าน หรือแบบโบราณ ที่ไม่ค่อยได้รับการนิยมมากนักเพราะทานยาก แต่ก็มีคนจำนวนไม่น้อย ที่ยังคงอนุรักษ์ไว้อยู่ สำหรับใครที่อยากลองรับประทานปลาหมอแต่ไม่รู้จะ หาลองได้ที่ไหน คุณสามารถเดินทางไปจังหวัดภาคอีสาน หรือภาคเหนือ เพราะคนในภาคอย่างนิยมกินอยู่
ประวัติความเป็นมาของ ปลาหมอ
ปลาหมอมีเนื้อแน่นก็จริง แต่ในเนื้อแน่นๆนั้นก็มีก้างเต็มไปหมด เป็นปลาเนื้อหวานมันพิเศษ คนจะสามารถเห็นตาหมอขายตามท้องตลาดเยอะขึ้นในเดือนพฤศจิกายนจนถึงเดือนกุมภาพันธ์ ปลาหมอไทยมีความคงทน สามารถอยู่ในฤดูกาลแห้งแล้ง ปลาหมอเป็นปลาน้ำจืด ที่ผู้คนนิยมกินมาตั้งแต่โบราณ แต่สมัยนี้ก็อาจจะได้รับความนิยมน้อยลง อย่างไรก็ตามก็ยังมีความต้องการของตลาดทั้งภายในและภายนอกประเทศที่ต้องการจะซื้อปลาหมอไปเพาะพันธุ์ เพื่อขายในประเทศของตัวเอง หาซื้อได้ยากในกรุงเทพฯ แต่หากเป็นต่างจังหวัดคุณก็จะสามารถหาได้ตามตลาดมากขึ้น ซึ่งราคาก็ไม่แพงมาก เป็นราคาที่จับต้องได้
ในฤดูวางไข่ของปลาหมอนั้น เมื่อได้รับการผสมพันธุ์ ปลาหมอเพศเมียจะปล่อยไข่ลงในน้ำ จะวางไข่ในน้ำไหลในฤดูน้ำหลาก ปลาหมอจะไม่มีการดูแลรักษาไข่และตัวอ่อน หากเป็นการเพาะพันธุ์ปลาหมอโดยการใช้ฮอร์โมนกระตุ้น ปลาหมอจะไม่เกิดการผสมพันธุ์อย่างที่ตั้งใจไว้ ดังนั้น การวางไข่แบบธรรมชาติจึงดีที่สุด ปลาหมอเป็นปลาที่อาศัยอยู่ตามแหล่งธรรมชาติ แต่ปัจจุบันก็มีคนนำมาเลี้ยงเพื่อเพาะพันธุ์ขาย วิธีกินแบบโบราณที่ทำง่ายๆ คือนำปลาหมอมาปิ้ง ในไฟอ่อนๆ วิ่งจนรู้สึกว่าเนื้อปลาหอมออกมา คุณก็จะได้กินปลาหมอร้อนๆ ซึ่งสามารถกินได้ทั้งเปลือกและเนื้อไปในเวลาเดียวกัน ปลาหมอไทยมีก้างเยอะควรจะระวังไม่ให้ติดคอ หากกินๆอยู่แล้ว ก้างติดคอคุณก็สามารถนำข้าวเหนียว ปั้นให้เป็นก้อนพยายามกลืนทั้งก้อนโดยไม่เคี่ยวก็จะสามารถทำให้ก้างปลาติดคอ มันหลุดออกได้ หากยังรู้สึกว่าก้างติดอยู่ในคอลึกเกินไปและไม่สามารถนำออกได้ คุณก็สามารถพบแพทย์ได้เลยทันที ถ้าไม่นำออกคุณก็จะรู้สึกว่ามันระคายคอเป็นอย่างมาก กลืนน้ำลายทั้งทีก็จะรู้สึกเจ็บ เมนูปลาหมอ ก้างเยอะ ใช่ว่าจะไม่มีคนชอบ
วันนี้เราขอนำเสนอ ฉู่ฉี่ปลาหมอ อาหารไทยโบราณที่หากินได้ยาก มีรสชาติกลมกล่อม เข้มข้นด้วยเครื่องแกงและความมันของกะทิ หากใครได้ลองทานก็คงจะรู้สึกติดใจ เพราะจะรู้สึกคิดถึงวันวานๆเก่าๆ อาจมีหลายครั้งที่ควรได้รับประทานแต่ไม่รู้ว่าเมนูนี้ชื่ออะไร หากคุณเป็นคนที่อยู่กับคนแก่ คุณตา คุณยายที่มีปัจจุบันมีอายุมากแล้ว ก็จะได้รับประทานเมนูนี้ มาตั้งแต่เด็ก วันนี้เราจะมาแบ่งปันสูตรอาหารโบราณขึ้นชื่อ อย่างฉู่ฉี่ปลาหมอ ถ้าพร้อมแล้วเรามาเริ่มกันเลย
สิ่งที่คุณต้องเตรียม
- ปลาหมอ 4 ตัว
- กะทิ 1000 มล. 2 ถุง 1 ถุงใช้ประกอบอาหาร 1 ถุงใช้ราดหน้า
- พริกแกง
- กะปิ 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
- น้ำตาลปึก 2 ช้อนโต๊ะ
- ดอกเกลือ ครึ่งช้อนชา
- ใบมะกรูด
- พริกชี้ฟ้าแดง
วิธีทำ ฉู่ฉี่ปลาหมอ
- ตั้งกะทะ แล้วเคี่ยวน้ำกะทิ ครึ่งถุง 250 มิลลิกรัม เคี่ยวจนมัน
- ผัดพริกแกงกับกะปิให้หอม
- ตามด้วยปรุงน้ำปลา น้ำตาล และดอกเกลือลงไป
- จากนั้นให้ใส่กะทิอีกครึ่งถุงที่เหลือ ลงไป แล้วรอจนเดือด
- ใส่ปลาหมอที่ขอดเกล็ดออกแล้ว ปิดฝาจนสุก
- หากปลาหมอสุกแล้ว ให้ยกลงจากเตา
- เคี่ยวกะทิอีก 1 ถุงที่เตรียมไว้ 5 0 0 มิลลิกรัม หรือ 250 มิลลิกรัม ถ้าชอบกะทิก็ให้เคี่ยวเยอะหน่อย จะได้รู้สึกหวานมัน
- จัดฉู่ฉี่ปลาหมอ ราดด้วยหัวกะทิที่เคี่ยวไว้ โรคด้วยใบมะกรูดและพริกชี้ฟ้าที่ซอยไว้
สรุป ปลาหมอเป็นปลาก้างเยอะ เนื้อแน่น หอมอร่อยจริง แต่ต้องระวังไม่ให้ก้างติดคอ หากคุณสนใจที่จะทำการเพาะพันธุ์เลี้ยงปลาหมอ ก็สามารถทำได้โดยศึกษาหาข้อมูลจากอินเตอร์เน็ต มีหลายแหล่งที่มาน่าเชื่อถือ ปลาหมอนิยมเลี้ยงเป็นอาชีพได้ แต่หากอยากเลี้ยงปลาหมอเพื่อความสวยงามตกแต่งตู้ปลาแล้วล่ะก็ คุณต้องศึกษาว่า ปลาหมอชนิดใดห้ามเลี้ยง เพราะปลาหมอบางชนิด ที่มาจากทะเลเป็นสัตว์อนุรักษ์ ควรจะปลาหมอประเภทนั้นอยู่ตามธรรมชาติดีกว่า หากใครที่อยากลองรับประทานปลาหมอ เมนูแนะนำที่คุณลองแล้วจะติดใจแน่นอน คือ เมนูฉู่ฉี่ปลาหมอ หากินได้ไม่ง่ายแล้วปัจจุบัน คุณสามารถได้ง่ายๆ ที่บ้าน เพียงแค่ต้องรู้แหล่งที่ซื้อปลาหมอ หากเป็นต่างจังหวัดก็หาได้ง่ายหน่อย แต่ถ้าเป็นกรุงเทพ จะคงจะมีบางวันที่แม่ค้ารับมาขายจากต่างจังหวัด หากอยากลอง ก็ลอง ไปหาแถวตลาดตอนเช้าดูเลย Ufabet เว็บหลัก
Credit: fishingmixs.com